6 แบรนด์ดัง ติดฟิล์มรถทั้งที ต้องติดดีๆ หน่อยไหม?

‘ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์’ ยี่ห้อไหนดี

ฟิล์มติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 2023? ทุกคนรู้ แฟนคลับรู้ ประเทศไทยมีอากาศร้อนตลอด! ไม่ว่าจะนอนอยู่ในบ้าน เดินออกจากที่ทำงาน หรือขับรถอยู่บนท้องถนน ก็ไม่มีทางหนีอุณหภูมิที่สูงปรี๊ดนี้ได้พ้น ถ้าสำหรับคนเราก็คงจะมีวิธีป้องกันได้อยู่หลายวิธี อาจจะทาครีมกันแดด ใส่เสื้อแขนยาว หรือกางร่ม แต่สำหรับรถยนต์ที่ต้องถูกขับออกไปข้างนอกตลอดเวลา เราจะป้องกันมันจากแสงแดดและความร้อนได้อย่างไรบ้าง?

คำตอบก็คือ ‘ฟิล์มติดรถยนต์’ นั่นเอง ที่จะทำหน้าที่เป็นเกราะกำบังชั้นดีให้รถยนต์ของเราไม่ต้องเผชิญหน้ากับดวงอาทิตย์มากเกินไป แต่ฟิล์มกรองแสงนี่มันนาน ๆ จะติดที ถ้าจะติดให้ดีต้องเลือกยี่ห้อไหนกันนะ ไม่ว่าจะเป็น ฟิล์มยอดฮิตอย่าง ลามิน่า Hi-kool 3M V-kool ซึ่งนี่เป็นคำถามยอดฮิตจาก Pantip เลย วันนี้ ร้าน เพทายช็อป (Peatai Shop) ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิล์มติดรถยนต์ ระยอง จะมาไขข้อสงสัยกันครับ ความคิดเห็นทั้งหมดนี่ “เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวในการให้คำแนะนำนะครับ”

1. ฟิล์ม Lamina

สำหรับแบรนด์แรกก็ต้องเปิดด้วย แบรนด์ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ตัวท็อปที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ‘ฟิล์มลามิน่า’ ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์ฟิล์มกรองแสงกันความร้อนคุณภาพสูงสุดจากสหรัฐอเมริกา ที่ถูกผลิตโดยโรงงานฟิล์มกรองแสง Lamina ชั้นนำที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในโลกอย่าง CPFilms ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญฟิล์มกรองแสงกันความร้อนทุกประเภทมาอย่างยาวนานตั้งแต่ ค.ศ. 1955 รวมแล้ว 65 ปีเลยทีเดียว

ฟิล์มกรองแสงลามิน่า ยังมีแบรนด์ทางเลือกให้ลูกค้าได้เลือกอีก ไม่ว่าจะเป็น ฟิล์มกราเซีย(Glasia), ฟิล์มกรองแสง Xtra-Cole, ฟิล์มกรองแสง Johnson และ ฟิล์ม LLumar ซึ่งคุณภาพดีไม่แพ้กันเลยทีเดียว

จุดเด่นของฟิล์มลามิน่า

ฟิล์มรถยนต์แบบฉาบโลหะ รุ่น POP, Genius series, Executive Series ราคาติดรอบคันประมาณ 5,000-6,000 บาท และ ฟิล์มเซรามิค ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Ceramatrix ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของลามิน่าเท่านั้น แถมยังมีสีให้เลือกค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะ โทนสีแบบ Soft Charcoal ทำให้ไม่เกิดเงาสะท้อนหลอกตาขณะขับขี่ และเนื้อฟิล์มจะมีลักษณะบางทำให้สบายตาเป็นธรรมชาติ

จุดอ่อนของฟิล์มลามินา

คือ เนื้อฟิล์มที่บางสำหรับฟิล์มลามิน่าบางรุ่น เช่น Lamina POP เวลาโดนแดดไปนานๆ ระดับความเข้มข้นของฟิล์มจางลงไปอย่างรวดเร็วด้วย ซึ่งถ้าความเข้มข้นมันจาง ประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนจากภายนอกก็ย่อมลดลงอยู่แล้ว ซึ่ง Lamina pop คือฟิล์มลามิน่าที่มักจะแถมมากับทางศูนย์รถยนต์ ส่วนมากมักจะเป็นรุ่นนี้

อย่างไรก็ตาม ในปี 2022 ฟิล์มรุ่น Lamina Pop จะเริ่มลดความนิยมไปมากแล้ว เนื่องจากทางศูนย์จะแถมเป็นฟิล์มเซรามิค Lamina CM One ซึ่งเป็นเกรดเซรามิค ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีกว่านั่นเอง

ถ้าถามว่าฟิล์มลามินาป๊อปดีมั้ย? ต้องบอกตรงๆ ครับว่า “คุณภาพพอใช้ได้ แต่ไม่ดีมาก” ถ้าแถมมาจากศูนย์ก็พอไหวครับ แต่ถ้าจะติดเองที่ร้านติดฟิล์มข้างนอก เราไม่ค่อยแนะนำให้ติดตั้งครับ เพราะกันร้อนได้ไม่ดีมาก และรับประกันน้อย เพียงแค่ 5 ปีเท่านั้น

2. ฟิล์ม Hi-Kool

แบรนด์ต่อไปที่ตีคู่กันมาเลยแบบที่ไม่พูดถึงไม่ได้เด็ดขาด สำหรับฟิล์มไฮคูล ‘Hi-Kool’ จากบริษัท ลีวณิชย์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญและผู้จัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงมายาวนานกว่า 30 ปี ที่เริ่มขายตั้งแต่ Dyed Film ที่ไม่มีสารเคลือบโลหะ จนมาถึงจุดที่นำเข้าฟิล์มคุณภาพสูงจากโรงงานที่ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกามาขายในประเทศไทย จนกลายเป็นแบรนด์ฟิล์มรถยนต์  Hi-Kool ที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี และที่ได้รับความนิยมในไทยอย่างมากก็เพราะมีคุณภาพในการป้องกันความร้อนได้ดี และในราคายุติธรรม

ฟิล์มกรองแสงไฮคูล ยังมีแบรนด์ในเครืออีกหลากหลายยี่ห้อ ได้แก่ แบรนด์พรีเมียม “ฟิล์ม Super Hi-kool” รุ่นที่แนะนำคือรุ่น Beyond Ceramic(BY) ซึ่งเป็นฟิล์มแบบ HyBrid ผสมสารโลหะกับเซรามิคเข้าด้วยกัน กันร้อนสูงมากถึง99% กับฟิล์มกรองแสงแบรนด์ประหยัด สำหรับตลาดระดับกลาง คือ “ฟิล์มกรองแสง Master” ซึ่งมี 2 Series MK และ MT กับ ฟิล์มติดรถยนต์แบบราคาถูก แบรนด์ Car-Kool อีกด้วย (ซึ่งในปัจจุบัน ฟิล์ม Master กับ Car-kool เริ่มจะหายไปจากตลาดแล้ว)

จุดเด่นของฟิล์ม Hi-Kool

จุดเด่นของฟิล์มกรองแสง Hi-kool คือ มีการคิดค้นและวิจัยออกแบบฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ให้เหมาะสมกับพื้นที่เขตร้อนอย่างประเทศไทยเป็นพิเศษด้วย โดยรุ่นที่ขายดีที่สุดของเขาคือ ฟิล์มกรองแสงรุ่น R60 ซึ่งสามารถป้องกันความร้อนโดยรวมได้สูงถึง 84% และ ยังเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดในอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น แผ่น Ultra-clear Polyester, Dyed Films, Metallized, และกาว Laminating Adhesive เพื่อผลิตฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์คุณภาพชั้นเยี่ยมขึ้นมา 1 แผ่นนั่นเอง

ฟิล์มไฮคูล R-Series ยังโดดเด่นในเรื่องของการมีหลากหลายสีให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น ฟิล์มเขียวใส 40/60/80, ฟิล์มฟ้าใส รุ่น r10, ฟิล์มชาเชียว 80% ซิ่งก็เป็นที่นิยมของสายซิ่ง กระบะแต่ง เพราะฟิล์มยี่ห้ออื่นๆ ไม่ค่อยตอบโจทย์เรื่องฟิล์มหลากหลายสี เท่ายี่ห้อไฮคูล ซึ่งก็ตอบโจทย์ทุกความต้องการของตลาด

อีกทั้งในปัจจุบัน ยังมีรุ่นที่พัฒนาเพิ่มเติมมาจากฟิล์มปรอทรุ่น R-serie นั่นก็คือ ฟิล์ม Hi-kool Black Carbon, Hi Kool Ceramic Blacknight กับรุ่น Hi-kool UV care ซึ่งจะเป็นรุ่นที่เริ่มนิยมมากขึ้นเรื่อยๆด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ Hi-kool Ceramic Black Night ซึ่งได้ดีเจเพชรจ้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ก็ทำให้มีลูกค้าถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งราคาฟิล์มเซรามิคของ Hi-kool ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ คือประมาณ 5,000-6,000 บาท ป้องกันความร้อนได้ประมาณ 70% ซึ่งถือว่าป้องกันความร้อนได้ค่อนข้างสูง สำหรับฟิล์มราคานี้ครับ

3. ฟิล์ม 3M

ตามมาติด ๆ แบบไม่ทิ้งช่วงเลย สำหรับฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ยี่ห้อ ‘3M’ ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด เพราะเขาเป็นเจ้าแรกของโลกที่ผลิตฟิล์มกรองแสงรถยนต์ขึ้นมา ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2509 เลยทีเดียว นั่นทำให้แบรนด์ไม่จำเป็นต้องทำการตลาดหรือโปรโมทอะไรมากมาย คนทั้งโลกก็รู้กันอยู่แล้วว่าเขาคือเจ้าแรก และมีการออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งานรูปแบบต่าง ๆ ตามความต้องการของลูกค้าด้วย

ลักษณะสำคัญของฟิล์มกรองแสง3M นั่นก็คือมีการเคลือบชั้นป้องกันรังสีอินฟราเรดหรือรังสีความร้อน และสามารถสะท้อนรังสี UV ได้ถึง 99% เลยทีเดียว แบบที่ไม่มีผลกระทบต่อสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์อย่าง WiFi, Bluetooth และสัญญาณโทรศัพท์  แถมยังได้รับการรับรองจากสถาบันด้านมะเร็งผิวหนังให้มั่นใจได้เลยว่าป้องกันรังสีจากแสงแดดได้ดีแบบไม่มีอันตราย รวมถึงอีก 1 จุดแข็งก็คือความคงทน และฟิล์มไม่ร่อนนั่นเอง

จุดเด่นของฟิล์ม 3M

ฟิล์มกรองแสง 3M เป็นแบรนด์ระดับโลก มีขายหลากหลายประเทศทั่วโลก ไม่ใช่แค่เพียงโรงงานสั่งผลิต OEM เท่านั้น ทำให้มั่นใจได้ว่า คุณภาพได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลกแล้วเช่นกัน 3M มีฟิล์มรถยนต์หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น

  • ฟิล์มดำ Smart Series (รุ่น FX) ดำเข้ม ไม่สะท้อนแสง มีหลายความเข้ม ได้แก่ FX5 FX15 FX20 FX30 และ FX50
  • ฟิล์มปรอท Smart Series (รุ่น FXR) สะท้อนความร้อนสูง มีความเข้ม FXR10 FXR20 FXR35 และ FXR40
  • ฟิล์มไฮบริด รุ่น Super Hybrid (รุ่นSH) ตัวใหม่ล่าสุด 2022 ออกมาแทนรุ่น FX ที่มีมานาน ตัวนี้คุณภาพการกันความร้อนสูง แต่ราคาประหยัดมากกว่า คิดว่าจะเป็นที่นิยมในไม่ช้า
  • ฟิล์มเซรามิค รุ่น Ceramic Absolute Series (รุ่น AS) ตัวใหม่ล่าสุด 2022 เป็นฟิล์มเซรามิคเกรดราคาถูก มี 3 ความเข้มให้เลือก AS05 AS15 AS35 ซึ่งกำลังเป็นฟิล์มเกรดที่ขายดีที่สุดของ 3M
  • ฟิล์มเซรามิค รุ่น Ceramic Ultra Clear Series (รุ่น CM-IR) ซึ่งเป็นฟิล์มยอดนิยม ตัวเนื้อฟิล์มมีความใส แม้ว่าภายนอกจะมีสีเข้มแต่ภายในสามารถมองเห็นอย่างชัดเจนขณะขับรถ ไม่เป็นอุปสรรคสายตาแน่นอน มีความเข้มหลากหลายมาก ได้แก่ CM5 CM15 CM25 CM35 CM50 และ CM70 กันร้อนสูงสุดในตระกูลเซรามิค
  • ฟิล์มเซรามิค รุ่น Ceramic S-Edition (รุ่น IM) เป็นฟิล์มเซรามิคอีกรุ่นหนึ่งของ 3M ที่เปิดตัว เป็นฟิล์มที่แถมมาจากโชว์รูมเท่านั้นไม่ได้ติดร้านภายนอก แต่เรื่องการกันความร้อนยังสู้รุ่น CM-IR ไม่ได้ แต่คุณภาพดีกว่ารุ่น FX มี3ความเข้มได้แก่ IM5 IM15 และ IM35
  • ฟิล์มเซรามิค รุ่น Ceramic R-Edition (รุ่น RE) เป็นฟิล์มเซรามิคที่เปิดตัวใหม่ รุ่นรองลงมาจากรุ่น Cm-IR กันร้อนน้อยกว่า แต่ราคาก็จะถูกลงมาด้วยประมาณ 10% ไม่มีขายเป็นม้วนตามร้านทั่วไป ต้องจองจากสำนักงานใหญ่เท่านั้น มีให้เลือก 3 ความเข้ม RE5 RE15 และ RE35
  • ฟิล์ม 3M Crystalline ฟิล์มตัวท๊อปที่ดีที่สุดของ3M มีให้เลือกตั้งแค่ความเข้มแบบใส รุ่น C70 C50 C40 (แสงส่องผ่าน 70%,50%,40%) และรุ่นใหม่ C20 (แสงส่องผ่าน 20%) ออกมาเพื่อตอบโจทย์คนที่ชอบฟิล์มเข้มมากขึ้น

4. ฟิล์ม V-Kool

ใครกำลังมองหาฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่พิเศษสุด ต้องลอง ‘V-Kool’ เพราะเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีผลิตฟิล์มกรองแสงสำหรับยานอวกาศและเครื่องบินล่องหนเลยทีเดียว ฟิล์มกรองแสงจากแบรนด์นี้เป็นฟิล์มชนิดพิเศษที่มีการเคลือบชั้นของโลหะลงบนแผ่นโพลีเอสเตอร์คุณภาพสูงด้วยชั้นอณุภาคอะตอมขนาดเล็กของ ทองคำ เงิน และอินเดียมออกไซด์ ทำให้ฟิล์มจาก V-Kool สามารถสะท้อนความร้อนและกรองช่วงรังสีของดวงอาทิตย์ได้อย่างดีเยี่ยม

จุดเด่นของติดฟิล์มวีคูล

นอกจาก V-kool จะสามารถป้องกันความร้อนได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์แบรนด์นี้ยังมีเนื้อฟิล์มที่ใสอีกด้วย นั่นก็เพราะเป็นฟิล์มจากแบรนด์ของ Eastman Chemical Company ส่งตรงจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงแบบที่บอกไป แบรนด์นี้เหมาะและตอบโจทย์อย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการฟิล์มที่ใส และเน้นเรื่องการป้องกันความร้อน แต่ไม่อยากได้เนื้อฟิล์มที่ทึบจนเกินไป สามารถลดอุณหภูมิภายในรถจากอากาศด้านนอกได้ถึง 9.6 องศา และยังเป็น Global Brand ที่มีจำหน่ายกันทั่วโลกอีกด้วย

อีก 1 จุดเด่นของฟิล์ม V-kool คือ ฟิล์มจะเน้นเรื่องเทคโนโลยีการสะท้อนความร้อน ฟิล์มไม่ดูดซับความร้อนเข้ามาภายในตัวรถเหมือนฟิล์มเซรามิค ทำให้การถ่ายเทความร้อนจากฟิล์มเข้ามาในรถได้ช้ากว่าฟิล์มเซรามิคทั่วๆไปในกรณีที่จอดรถไว้เฉยๆ รถไม่มีการเคลื่อนที่ ดังนั้นถ้ามีคนถามว่า จอดรถตากแดดไว้นานๆ ฟิล์มยี่ห้ออะไรที่ทำให้รถไม่ร้อน ต้องตอบว่า V-kool จะตอบโจทย์มากที่สุดครับ

จุดด้อยของฟิล์มวีคูล

ถึงแม้ว่าคุณภาพจะไม่เป็นที่กังขา แต่ฟิล์ม V-kool ก็ขึ้นชื่อเรื่องราคาติดตั้งที่ค่อนข้างสูง ซึ่งราคาติดตั้งต่อคันฟิล์มรุ่น Solitaire Energy Package หรือ VK คือประมาณ 34,000 – 40,000 บาทเลยทีเดียว และมีคุณสมบัติเรื่องอายุการใช้งานที่ค่อนข้างน้อยกว่าฟิล์มแบรนด์อื่น คือประมาณ 5-7 ปี เท่านั้น และ GPS, Easy Pass ยังไม่ผ่านอีกด้วย ซึ่งจำเป็นต้องแก้ปัญหาได้ด้วยการเจาะฟิล์มเพื่อติด Easy pass โดยเฉพาะ หรืออาจจะลงทุนติดเครื่องขยายสัญญาณ GPS Auto Booster ซึ่งก็เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ก็สามารถแก้ปัญหาจุดนี้ได้

ถ้าต้องการรุ่นที่ GPS และ Easy Pass ผ่าน ก็จะเป็นรุ่นรองลงมาคือรุ่น ECO STATURE หรือรุ่น X ซึ่งป้องกันความร้อนได้ไม่ดีสู้รุ่น Top ไม่ได้ครับ แต่ก็ถือว่าป้องกันความได้สูงมากพอสมควรเช่นเดียวกัน มีSpec แสงสว่างส่องผ่าน 5-28% สามารถป้องกันรังสีอินฟาเรด 78-87% และค่ากันความร้อนรวม 60-70% ถ้าต้องการความเข้ม 60/80 แบบทั่วๆไปแล้ว ขอแนะนำติด ความเข้ม X05 (เข้ม80) บานหน้า X25 (เข้ม60) รอบคันเป็นที่นิยมครับ

ฟิล์ม V-KOOL ยังมีฟิล์มรุ่น Ozone Signature Package หรือ รุ่นที่ขึ้นต้นด้วย K14 และ G05 ซึ่งอาจจะไม่เป็นที่นิยมมากในปัจจุบันครับ

5. ฟิล์ม SolarFX

เดินทางมาถึงฟิล์มกรองแสงแบรนด์ที่ 5 อย่าง ‘SolarFX’ ซึ่งเป็นแบรนด์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ถูกผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ซึ่งใช้การฝังอนุภาคของนาโนเซรามิคขนาด 80-90 นาโนเมตรเข้าไปในเนื้อฟิล์ม แทนการย้อมสีหรือการเคลือบด้วยโลหะเหมือนแบรนด์อื่น จนเกิดเป็นฟิล์มเซรามิคคุณภาพเยี่ยมที่มีสีเข้มและสะท้อนแสงน้อย แถมยังรับประกันนานถึง 18 ปีเลยทีเดียว

จุดเด่นของ SolarFX

ถ้าถามว่าแล้วทำไมจะต้องเลือกติดฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์SolarFX ด้วย ก็เพราะว่าตัวฟิล์มมีสีดำเข้มอย่างมากเมื่อมองจากภายนอก เหมาะสำหรับสายสปอร์ตที่ต้องการเพิ่มความหรูหราให้รถของเรา แถมยังได้ความเป็นส่วนตัวด้วย นอกจากนี้ยังขับขี่ได้อย่างสบายใจ ไม่กังวลเรื่องไฟหน้ารถ หากยังไม่แน่ใจว่าติดฟิล์มเซรามิค ยี่ห้อไหนดี? ถ้าเรื่องความคมชัดของฟิล์มเซรามิค ต้องยกให้ SolarFX เท่านั้นครับ

เนื้อฟิล์มSolarFX มองเห็นคมชัดจากด้านใน ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน และหน้าที่สำคัญของฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์อย่างการป้องกันรังสี UV ก็ทำได้ดีถึง 99% และการป้องกันความร้อนก็ไม่แพ้กัน อยู่ที่ 93% โดยที่ไม่รบกวนสัญญาณ Easy Pass และ GPS ด้วย แล้วไม่ต้องห่วงเรื่องความทนทาน เพราะสีไม่จืดจางแน่นอน

6. ฟิล์มติดรถยนต์ HeatGard

สำหรับประเทศที่ร้อนตับแตกแบบไทยนี้ ก็ต้องรู้จักตัวช่วยให้ครบถ้วน และฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์แบรนด์สุดท้ายที่จะพามาให้รู้จักกันก็คือ ‘HeatGard’ เป็นอีก 1 เจ้าของฟิล์มกรองแสง ที่ใช้การผลิตลักษณะพิเศษด้วยเทคโนโลยีสุดทันสมัยจากประเทศเยอรมัน ที่มีการออกแบบฟิล์มกรองแสงให้มีเนื้อฟิล์มเหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทยโดยเฉพาะ

จุดเด่นของ HeatGard

คือความเย็น สบาย สามารถลดความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้สูงสุดถึง 98% ซึ่งถือว่ามากกว่าฟิล์มทั่ว ๆ ไปถึง 2-5 เท่าเลยทีเดียว นอกจากป้องกันความร้อนแล้ว อีก 1 หน้าที่หลักของฟิล์มติดรถยนต์ก็คือการป้องกันรังสี UV สำหรับ UV400 ที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง สามารถป้องกันได้ถึง 100% ซึ่งจะทำให้ผิวรอดพ้นจากความคล้ำเสีย แล้วที่สำคัญ จะยังทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถยังคงสภาพดีและใหม่อยู่เสมอ

สำหรับเรื่องทัศนวิสัยการมองเห็นก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเนื้อฟิล์มคมชัดแน่นอน จะขับขี่กลางวันหรือกลางคืนก็สบายตา แล้วยังรับประกันยาวนานถึง 7 ปีเช่นกัน

แนะนำฟิล์ม HeatGard รุ่นไหนดี

ฟิล์มกรองแสง HeatGard รุ่น Super Ceramic เป็นรุ่นยอดนิยม ราคาไม่แพงมาก อีกทั้งยังป้องกันความร้อนได้สูงสุดถึง 99% ด้วย ถ้าไม่เน้นแบรนด์ดัง แต่ของคุณภาพดี แนะนำ HeatGard ครับ

นอกจากฟิล์มกรองแสง 6 ยี่ห้อดังกล่าวที่ร้านติดฟิล์มกรองแสง ระยอง ของเรานำมาแนะนำกันแล้ว ในตลาดฟิล์มกรองแสงประเทศไทย ยังมียี่ห้อฟิล์มกรองแสงดี ๆ อีกมากมายเลยครับ เช่น ฟิล์ม Smarttec, ฟิล์ม Ultimate, ฟิล์มกรองแสง VOX, ฟิล์ม blaupunkt, ฟิล์ม Maxxma, ฟิล์ม SolarGard, ฟิล์ม SunGard, ฟิล์ม Technic เป็นต้น

ซึ่งทางเราไม่สามารถแนะนำได้หมด เนื่องจากคุณสมบัติและมีหลากหลายรุ่นให้เลือกมากมาย ทางที่ดี คุณลูกค้าควรจะเลือกดูฟิล์มตัวอย่างของจริง ดูสีฟิล์มจริง เสปคการกันความร้อนโดยเครื่องวัดฟิล์ม ดูรีวิวต่างๆ เพื่อให้ตัดสินใจเลือกฟิล์มกรองแสงยี่ห้อที่ดีที่สุดครับ

สรุปแล้ว ติดฟิล์มรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี?

ไม่ว่าจะเป็นฟิล์มติดรถยนต์ยี่ห้อไหน ก็ต้องดูความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ “

อย่างที่เห็นว่าฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์แต่ละยี่ห้อนั้น ก็มีความแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยีการผลิต วัตถุดิบ จุดเด่นด้านเนื้อฟิล์มและสี รวมไปถึงประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนและรังสี UV จากดวงอาทิตย์

ซึ่งนอกจาก 6 แบรนด์ที่ยกมารีวิวเปรียบเทียบกับนี้ ยังมีอีกฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์อีกมากมายหลายยี่ห้อให้คนรักรถทุกคน เลือกซื้อและติดได้ตามความเหมาะสมของการใช้งาน เพราะรถยนต์ของเรานั้นสำคัญ การเลือกว่าจะติดแบรนด์ไหนนั้นไม่ผิด แต่ถ้าเลือกที่จะไม่ติด บอกเลยคิดผิดแน่นอนน!!!!

Peatai Shop ยินดีให้คำปรึกษาทุกปัญหาเกี่ยวกับฟิล์มติดรถยนต์ทุกยี่ห้อ สนใจติดฟิล์มรถยนต์ ระยอง ติดต่อพูดคุยกับทีมงานของเราได้ตลอดเวลาทำการเลยครับ

โทร 087-7406866 หรือ 091-7979787